สวัสดีครับ วันนี้เรามาดูกันว่า การที่เราจะสอบเพื่อก้่าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษานั้น เราจำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง ทั้งนี้ีเพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวให้พร้อมที่สุดก่อนลงสนามสอบจริง จะได้ไม่พลาดหวัง เพราะการสอบผู้บริหารสถานศึกษาใช่ว่าจะมีการเปิดสอบกันทุกปี.........จริงไหม สิ่งที่เราควรรู้ก่อนสอบมีดังนี้
1. ที่ไหนเปิดสอบ แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องรู้สถานที่เปิดสอบ เพราะข้อสอบไม่น้อยกว่า 5% มักจะออกเกี่ยวกับสถานที่เิปิดสอบ เช่น คำขวัญ บริบททั่วๆไป สถานที่สำคัญ ฯลฯ
2. หลักสูตรการสอบ ว่ามีการสอบอะไรบ้าง ทั้งนี้โดยมากแล้วหลักสูตรการสอบมักจะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ เพราะต้องอิงหลักสูตรของ สพฐ. อยู่แล้ว
3. ใครออกข้อสอบ เป็นข้อสอบกลาง หรือข้อสอบที่ออกโดยเขตพื้นที่ อันนี้เราจำเป็นต้องรู้ เพราะจะได้เก็งข้อสอบได้ถูก เช่น ถ้าเป็นข้อสอบกลาง ก็อาจจะเป็น ม.จุฬาฯ หรือไม่ก็ มสธ. เป็นคนออก เราก็ไปหาหนังสือที่เป็นของ 2 สำนักนี้มาเก็งข้อสอบ แต่ถ้าเป็นเขตพื้นที่ออก ก็ไปหาหนังสือทั่วๆไปมาดูได้เลย เพราะคนออกข้อสอบก็จะไปหาซื้อหนังสือเหล่านี้แหละมาออกข้อสอบ
4. สุดท้ายที่สำคัญที่สุดก็คือ "เราพร้อมหรือยัง" เพราะถ้าเราไม่พร้อมก็ไม่ควรจะไปสอบให้เสียกำลังใจ
เหล่านี้คือสิ่งที่เราจะต้องรู้ก่อนลงสนามสอบ ถ้าเราสำรวจแล้วพบว่าเรายังไม่รู้อะไรอีกหลายๆอย่าง เราก็ควรจะหาข้อมูล เพื่อให้เราพร้อมที่สุด จะได้ไม่พลาดหวังในการสอบนะครับ
วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554
การเตรียมตัวสำหรับคนอยากสอบเป็นผู้บริหารสถานศึกษา
ครับ ในบทความนี้จะว่าด้วยเรื่องการเตรียมตัว เตรียมใจในการที่จะสอบเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งท่านต้องมีการเตรียมตัวดังนี้
1. ท่านมีใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา หรือยัง ถ้ายังก็ไปจัดหามาซะ สำหรับใครที่ไม่ได้จบ บริหารการศึกษามาก่อน ก็ต้องไปเรียนเพิ่มเติม เพราะถ้าไม่จบบริหารการศึกษามา คุรุสภาเขาจะไม่ออกใบประกอบวิชาชีพให้
2. ท่านเป็นครูมากี่ปี ถ้าเป็นครูมาไม่ถึง 5(หรือ6 น้อออ) ปี ก็อดครับ เพราะเขากำหนดไว้อย่างนั้น
3. ท่านมีวิทยะฐานะอะไร ถ้ายังไม่มีก็สอบได้แค่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ แต่ถ้าเป็นครูชำนาญการแล้วก็สามารถสอบเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนได้เลย
4. ปรึกษากับเมียให้เข้าใจ เพราะการเป็นผู้บริหารอาจจะทำให้ท่านไม่ได้กินข้าวเย็นกับเมียทุกวัน
5. หาแหล่งข้อมูล ข้อสอบ แหล่งติว เทปการบรรยาย หนังสือเตรียมสอบ
ถ้าท่านมีครบทั้ง 5 ข้อที่ผมว่ามาแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับท่านแล้วหล่ะครับ ว่าจะมีความตั้งใจจริงแค่ไหนในการเตรียมตัวสอบ เพราะเท่าที่ผมเห็นมา พวกเตรียมตัวสอบ มีการนัดกันไปติว แต่ไปจบที่ร้านเหล้า แล้วก็สอบไม่ติดกันซักคน ดังนั้น นอกจากท่านจะต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนการสอบแล้ว ท่านต้อมีความตั้งใจจริงในการที่จะสอบด้วย
1. ท่านมีใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา หรือยัง ถ้ายังก็ไปจัดหามาซะ สำหรับใครที่ไม่ได้จบ บริหารการศึกษามาก่อน ก็ต้องไปเรียนเพิ่มเติม เพราะถ้าไม่จบบริหารการศึกษามา คุรุสภาเขาจะไม่ออกใบประกอบวิชาชีพให้
2. ท่านเป็นครูมากี่ปี ถ้าเป็นครูมาไม่ถึง 5(หรือ6 น้อออ) ปี ก็อดครับ เพราะเขากำหนดไว้อย่างนั้น
3. ท่านมีวิทยะฐานะอะไร ถ้ายังไม่มีก็สอบได้แค่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ แต่ถ้าเป็นครูชำนาญการแล้วก็สามารถสอบเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนได้เลย
4. ปรึกษากับเมียให้เข้าใจ เพราะการเป็นผู้บริหารอาจจะทำให้ท่านไม่ได้กินข้าวเย็นกับเมียทุกวัน
5. หาแหล่งข้อมูล ข้อสอบ แหล่งติว เทปการบรรยาย หนังสือเตรียมสอบ
ถ้าท่านมีครบทั้ง 5 ข้อที่ผมว่ามาแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับท่านแล้วหล่ะครับ ว่าจะมีความตั้งใจจริงแค่ไหนในการเตรียมตัวสอบ เพราะเท่าที่ผมเห็นมา พวกเตรียมตัวสอบ มีการนัดกันไปติว แต่ไปจบที่ร้านเหล้า แล้วก็สอบไม่ติดกันซักคน ดังนั้น นอกจากท่านจะต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนการสอบแล้ว ท่านต้อมีความตั้งใจจริงในการที่จะสอบด้วย
ข้อดีของการสอบผู้บริหารสถานศึกษา
ครับไม่ว่าแต่ละท่าน แต่ละคนจะมีเหตุผล,แรงจูงใจอะไรก็ตามในการที่จะสอบผู้บริหารสถานศึกษา แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า เมื่อท่านสามารถสอบผ่านกระบวนการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารได้แล้ว จะเกิดผลดีดังนี้
1. ร้านขายสูท จะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 ตัว เพราะท่านต้องตัดสูท ใหม่แน่นอน...55
2. ภาพลักษณ์ของท่านจะดีขึ้นทันที เพราะเป็น ผู้บริหารแล้วนะ ไม่ใช่ครูน้อยเหมือนเดิม
3. เจลแต่งผมได้ขายเยอะขึ้น เพราะเมื่อตอนเป็นครูน้อย ก่อนออกจากบ้านท่านอาจจะไม่คิดอะไร ไม่แต่งอะไร แต่พอเป็นผู้บริหารแล้วต้องดูดี ดูน่าเชื่อถือ ดังนั้นการเซ็ทผม แต่งผมด้วยเจล ก็ต้องมีบ้าง ใครไม่เคยก็จะเป็นตอนนี้แหละ
4. สำหรับท่านที่มีเมียแล้ว เมียท่านจะถูกเรียกว่า "คุณนาย" ในทันที ซึ่งจะทำให้เมียท่านหน้าบานไปหลายปี......จนกว่าจะชิน
5. สำหรับท่านที่ยังไม่มีเมีย จะทำให้ท่านสามารถหาเมียได้ง่ายขึ้น และอาจจะหาได้หลายๆคนพร้อมๆกัน....555
6. โรงเรียนที่ท่านจะไปดำรงตำแหน่ง จะได้ผู้บริหารรุ่นใหม่ ไฟแรง ไปช่วยพัฒนาโรงเรียน(หรือเปล่า)
.
.
ฯลฯ
เยอะแยะไปหมดครับสำหรับข้อดีของการสอบได้เป็นผู้บริหารสถานศึกษา แต่ท่านต้องไม่ลืมนะครับว่า ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษานั้นถ้าแบ่งตามโครงสร้างการบริหารงานของกระทรวงศึกษาแล้ว จะเป็นเพียงแค่ตำแหน่งผู้บริหารระดับต้นเท่านั้น ซึ่งเราสามารถก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับกลาง(ผอ.เขต) และผู้บริหารระดับสูง(เลขาฯ สพฐ.)ได้ ฉะนั้น อย่าได้หลงระเริงกับตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษามากจนเกินไปนะครับ จงพัฒนาตนเองเพื่อเตรียมความพร้อมในตำแหน่งบริหารที่สูงขึ้นไปอีก
1. ร้านขายสูท จะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 ตัว เพราะท่านต้องตัดสูท ใหม่แน่นอน...55
2. ภาพลักษณ์ของท่านจะดีขึ้นทันที เพราะเป็น ผู้บริหารแล้วนะ ไม่ใช่ครูน้อยเหมือนเดิม
3. เจลแต่งผมได้ขายเยอะขึ้น เพราะเมื่อตอนเป็นครูน้อย ก่อนออกจากบ้านท่านอาจจะไม่คิดอะไร ไม่แต่งอะไร แต่พอเป็นผู้บริหารแล้วต้องดูดี ดูน่าเชื่อถือ ดังนั้นการเซ็ทผม แต่งผมด้วยเจล ก็ต้องมีบ้าง ใครไม่เคยก็จะเป็นตอนนี้แหละ
4. สำหรับท่านที่มีเมียแล้ว เมียท่านจะถูกเรียกว่า "คุณนาย" ในทันที ซึ่งจะทำให้เมียท่านหน้าบานไปหลายปี......จนกว่าจะชิน
5. สำหรับท่านที่ยังไม่มีเมีย จะทำให้ท่านสามารถหาเมียได้ง่ายขึ้น และอาจจะหาได้หลายๆคนพร้อมๆกัน....555
6. โรงเรียนที่ท่านจะไปดำรงตำแหน่ง จะได้ผู้บริหารรุ่นใหม่ ไฟแรง ไปช่วยพัฒนาโรงเรียน(หรือเปล่า)
.
.
ฯลฯ
เยอะแยะไปหมดครับสำหรับข้อดีของการสอบได้เป็นผู้บริหารสถานศึกษา แต่ท่านต้องไม่ลืมนะครับว่า ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษานั้นถ้าแบ่งตามโครงสร้างการบริหารงานของกระทรวงศึกษาแล้ว จะเป็นเพียงแค่ตำแหน่งผู้บริหารระดับต้นเท่านั้น ซึ่งเราสามารถก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับกลาง(ผอ.เขต) และผู้บริหารระดับสูง(เลขาฯ สพฐ.)ได้ ฉะนั้น อย่าได้หลงระเริงกับตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษามากจนเกินไปนะครับ จงพัฒนาตนเองเพื่อเตรียมความพร้อมในตำแหน่งบริหารที่สูงขึ้นไปอีก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)